1. ความสัมพันธ์ระหว่างนโยบายเศรษฐกิจกับธุรกิจ
1. กระตุ้นเศรษฐกิจที่มีผลต่อการยกระดับรายได้ของประชาชนและหยุดการทรุดตัวทางเศรษฐกิจ
โดยคงสภาพการขาดดุลการคลังต่อไปอีกระยะหนึ่ง ในกรอบการรักษาไว้ซึ่งเสถียรภาพและวินัยการคลังที่เหมาะสม
และจะปรับนโยบายการคลังให้เข้าสู่การคลังที่สมดุล เมื่อเศรษฐกิจสามารถขยายตัวขึ้นมารองรับได้อย่างเพียงพอ
2.
ปรับปรุงระบบภาษีให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ
เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นภาคเศรษฐกิจจริง ที่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มภายในประเทศ
3.
บริหารการคลังอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืนโดยเฉพาะการรักษาวินัยการคลังในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ
จัดทำแผนการบริหารทรัพย์สินและหนี้สินสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ
2. ความสัมพันธ์ระหว่างนโยบายการเงิน
สถาบันการเงิน และตลาดทุน กับธุรกิจ
1. ดำเนินนโยบายการเงินที่เอื้อต่อการปล่อยสินเชื่อ
เข้าสู่ภาคเศรษฐกิจจริงเพื่อให้เกิดการขยายตัวของภาคธุรกิจ กระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ
2.
ดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราในลักษณะที่เอื้ออำนวยต่อกระบวนการสร้างรายได้ของประชาชนทุกระดับ
และเอื้อต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
3.
การพัฒนาและฟื้นฟูระบบสถาบันการเงินของประเทศให้สามารถทำหน้าที่เกื้อกูลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจได้ตามปกติ
โดยก่อภาระด้านการเงินการคลังน้อยที่สุด
4.
การพัฒนาตลาดเงินและตลาดทุนเพื่อให้เป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพในการระดมทุน
และส่งเสริมการออมระยะยาวของภาคธุรกิจและประชาชน
5.
การพัฒนาตลาดตราสารหนี้
เพื่อสร้างทางเลือกและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินของภาคเอกชน และสร้างความเสมอภาคระหว่างตลาดเงิน
ตลาดทุน ตลาดตราสารหนี้ และ เงินฝากในสถาบันการเงิน
3. ความรับผิดชอบของธุรกิจที่มีต่อเศรษฐกิจ
และสังคมของประเทศ
ธุรกิจมีฐานะเป็นหน่วยหนึ่งของสังคม จำเป็นต้องมีความรับผิดชอบต่อบุคคล
หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
1.
ความรับผิดชอบต่อเจ้าของกิจการ
การดำเนินธุรกิจให้เกิดกำไรสูงสุด
2.
ความรับผิดชอบต่อลูกค้า
การให้บริการลูกค้าที่ดีที่สุด
3.
ความรับผิดชอบที่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของรัฐ
4.
ความรับผิดชอบต่อลูกจ้าง
ในด้านสวัสดิการของลูกจ้าง
5.
ความรับผิดชอบต่อสังคม
โดยให้สังคมได้รับประโยชน์ตามสมควร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น