วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557

บทที่ 6 เอกสารทางธุรกิจ

           ความหมายของเอกสารธุรกิจ
                เอกสารธุรกิจ (Business Documents) หมายถึง เอกสารหรือตราสารต่าง ๆ ที่ทำขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษรที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ โดยอาจจัดทำขึ้นในรูปของแบบฟอร์ม หรือในรูปของแบบพิมพ์หรือเขียนขึ้นในลักษณะที่ถูกต้องตามกฎหมายมีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยัน หรืออ้างอิงในการประกอบธุรกิจ
                เอกสารธุรกิจ หมายถึง หนังสือที่ใช้เป็นหลักฐานที่ทำให้ปรากฏความหมายตามตัวอักษรตัวเลข เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินกิจกรรมทางด้านการผลิต การจัดจำหน่ายและการบริการ
                จากความหมายดังกล่าวจึงเห็นได้ว่า เอกสารทางธุรกิจ เป็นสิ่งที่จัดทำขึ้นตามความประสงค์เพื่อใช้ในการดำเนินการทางธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จ
 ความสำคัญของเอกสารทางธุรกิจ
                ในการประกอบการธุรกิจ ผู้ประกอบการต้องมีความสัมพันธ์กับบุคคลและหน่อยงานองค์กรต่าง ๆ การติดต่อทางธุรกิจ จึงต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเป็นหลักฐานสำหรับใช้อ้างอิงและมีผลได้ตามกฎหมาย เอกสารทางธุรกิจที่จัดทำขึ้นจึงมีความสำคัญต่อวงการธุรกิจมากดังนี้
                1.ใช้เป็นหลักฐานที่มีผลตามกฎหมาย
                2.ทำให้การติดต่อกันทางธุรกิจ มีความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย
                3.สร้างความเชื่อถือ ในการติดต่อทางด้านสินเชื่อ
                4.ใช้แทนการชำระหนี้ด้วยเงินสด ซึ้งทำให้เกิดความรวดเร็วและปลอดภัย
                5.ใช้เป็นข้อมูลใช้การบันทึกทางการบัญชี
                6.ทำให้เกิดสภาพคล่องในการถือหรือเปลี่ยนมือเกี่ยวกับหลักทรัพย์ทางธุรกิจ
ประเภทของเอกสารธุรกิจ
          1. เอกสารทางการค้า
          2. เอกสารเครดิตทางการเงิน
          3. เอกสารการนำเข้าละส่งออก
          4. เอกสารการประกันภัย
          5. เอกสารการขนส่ง
1. เอกสารทางการค้า
          เอกสารเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้า ที่กิจการจำเป็นต้องมี เพื่อติดต่อประสานงานและใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงในการปฎิบัติงาน ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องจัดทำบัญชีเพื่อสรุปผลการดำเนินงาน และแสดงฐานทางการเงินของกิจการ เพื่อเสียภาษีอากรเช่น ใบสอบถามราคาสินค้า ใบเสนอราคา ใบสั่งซื้อสินค้า ใบส่งของ บิลเงินสด ใบเพิ่มหนี้ ฯลฯ เป็นต้น 
2. เอกสารเครดิตทางการเงิน
          เอกสารเครดิตทางการเงิน
          การรับ- การจ่ายในการให้เครดิตหรือสินเชื่อ ก็ต้องทำหลักฐานหรือเอกสาร
          1. ตั๋วเงิน คือ เอกสารเครดิตที่ใช้แทนเงินในวงการธุรกิจ  ตั๋วเงินอาจถูกขายเปลี่ยนมือผู้ถือหรือโอนสลักหลัง
          ตั๋วเงินแบ่งเป็น  3  ประเภท  ได้แก่
          1. ตั๋วสัญญาใช้เงิน (Promissory Note)
          2. ตั๋วแลกเงิน  (Bill of Exchange)
          3. เช็ค (Cheque)

          1.1.   ตั๋วสัญญาใช้เงิน  (Promissory Note)
ตั๋วสัญญาใช้เงิน คือ หนังสือตราสารที่บุคคลผู้หนึ่งที่เรียกว่าผู้ออกตั๋ว ให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้เงินจำนวนหนึ่งให้แก่บุคคลอีกบุคคลหนึ่งหรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลอีกบุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้รับเงิน 
1.2. ตั๋วแลกเงิน  (Bill of Exchange)
ตั๋วแลกเงิน  คือ  หนังสือตราสารที่บุคคลผู้หนึ่งที่เรียกว่าผู้สั่งจ่าย  สั่งบุคคลอีกผู้หนึ่ง เรียกว่าผู้จ่าย ให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่บุคคลหนึ่งหรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลอีกคนหนึ่งซึ่งเรียกว่าผู้รับเงิน 
          1.3.   เช็ค (cheque)
          เช็ค  คือ  หนังสือตราสารที่บุคคลคนหนึ่งที่เรียกว่า  ผู้สั่งจ่าย  สั่งธนาคารให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งเมื่อทวงถาม  ให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งหรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลอีกคนหนึ่งซึ่งเรียกว่า 
2. บัตรเครดิต
          บัตรเครดิต คือ ตราสารทางการเงิน โดยธนาคารพาณิชย์จะเป็นผู้ออกบัตรให้แก่สมาชิก ลูกค้าต้องขอเปิดสินเชื่อจากธนาคาร ซึ่งมีเงื่อนไขแตกต่างกันไป     
3. ธนาณัติ
          เป็นเอกสารที่ทำ ณ ไปรษณีย์ทั่วประเทศเพื่อให้บริการ รับฝากเงินจากผู้ฝากส่งแล้วดำเนินการออกตราสารสั่งจ่ายเงินซึ่งเรียกว่าธนาณัติ หรือออกคำสั่งให้ที่ทำการไปรษณีย์ปลายทางออกตราสารสั่งจ่ายเงินดังกล่าวตามจำนวนที่รับฝากเพื่อจ่ายเงินให้แก่ผู้รับที่มีนามระบุในตราสารนั้น ณ ที่ทำการไปรษณีย์
ตัวอย่างเอกสาร

4.เลตเตอร์ออฟเครดิต  (Letter of Credit หรือตัวย่อว่า L/C) 
          Letter of Credit หรือที่นิยมเรียกกันย่อๆ ว่า L/C เป็นการชำระค่าสินค้าผ่านธนาคารวิธีหนึ่ง ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเป็นวิธีเดียวที่มีหลักประกันพอที่จะเชื่อได้ว่า ผู้ขายสินค้าจะได้รับเงินค่าสินค้าเมื่อได้ส่งมอบสินค้าลงเรือ และผู้ซื้อสินค้าจะได้รับสินค้าเมื่อจ่ายเงินค่าสินค้า  ซึ่งมี 2 ชนิดดังนี้
          4.1  เลตเตอร์ออฟเครดิตเพื่อการค้า
          4.2  เลตเตอร์ออฟเครดิตเพื่อการเดินทาง 
5.ใบรับทรัสต์ คือ หนังสือสัญญาที่ผู้สั่งสินค้าเข้าทำไว้ต่อธนาคารเพื่อเป็นการรับรองว่า ตนขอรับเอกสารประกอบในการส่งสินค้า จากธนาคารเพื่อนำไปออกสินค้าจากกรมศุลากากร เช่น ใบตราส่งสินค้า รายการบรรจุสินค้าและน้ำหนักสินค้า ฯลฯ โดยมีบุคคลที่เกี่ยวข้อง 2 ฝ่าย คือ ผู้ซื้อสินค้ากับธนาคาร

5. เอกสารการนำเข้าและส่งออก
          เอกสารการนำเข้าและส่งออก  จัดทำขึ้นเพื่อช่วยให้การนำเข้าและส่งออกบรรลุวัตถุประสงค์ ของการซื้อขายระหว่างประเทศ  ได้แก่
          1. ใบกำกับสินค้าสำรอง เป็นใบกำกับสินค้าที่ผู้ขายออกให้เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการขอเปิด L/C จะมีลักษณะคล้ายใบกำกับสินค้า
          2. ใบกำกับหีบห่อ เป็นเอกสารที่ผู้ส่งออกทำขึนเพื่อแสดงรายการบรรจุหีบห่อในลักษณะต่างๆ โดยแนบมาพร้อมใบกำกับสินค้า
          3. ใบขนสินค้าเข้า คือ เอกสารที่ผู้นำเข้าจัดทำเพื่อยื่นต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร เป็นแบบฟอร์มที่ต้องกรอกข้อความเพื่อแสดงลักษณะ ราคาของสินค้า และรายละเอียดอื่นๆจำเป็น
          4. ใบขนสินค้าขาออก เป็นเอกสารที่ผู้ส่งออกเพื่อแสดงรายการในการส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อตามเงื่อนไขในสัญญาซื้อขาย
          5.  แบบธุรกิจต่างประเทศ ธ.ต. 1   คือแบบพิมพ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ตาม พรบ. ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พ.ศ. 2485 เป็นรายงานการส่งออก ๖ใช้สำหรับการส่งออกที่มีมูลค่าครั้งละเกินกว่า 500,000 บาท ) ซึ่งผู้ส่งออกเป็นผู้ยื่นประกอบใบขนสินค้าขาออกโดยจัดทำ 2 ฉบับ คือ 1.) ต้นฉบับ 2.) สำเนา แบบพิมพ์ ธ.ต. 1 นี้ขอรับได้จากกรมศุลกากร และไม่ต้องมีการรับรองจากธนาคารพาณิชย์ 6.  แบบธุรกิจต่างประเทศ (ธ.ต.2) คือ แบบพิมพ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย  ตามพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พ.ศ. 2485 ใช้สำหรับยื่นประกอบ  ใบขนสินค้าขาเข้า ซึ่งสินค้าที่นำเข้า มีมูลค่าเกินกว่า 500,000 บาท ผู้นำของเข้าจะต้องนำมายื่นพร้อมกับใบขนสินค้า ในขณะผ่านพิธีการ   
          7. ใบแสดงแหล่งกำเนิดของสินค้า เป็นเอกสารที่ผู้ขายต้องแสดงว่าสินค้าผลิตจากประเทศไทย
          8. กรมธรรม์ประกันภัย ออกโดยบริษัทประกันภัย เพื่อแสดงภาระผูกพันที่จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง
          9. ใบรับรองการประกันภัย  เป็นเอกสารที่ผู้รับประกันภัยออกให้แก่ผู้ระกันภัยในแต่ละครั้งที่มีการขนส่งสินค้า
          10. ใบรับรองน้ำหนักของสินค้า  เป็นเอกสารที่ผู้ขายเป็นผู้ออกเพื่อรับรองน้ำหนักของสินค้า
          11. ใบรับรองการตรวจสินค้า เป็นเอกสารรับรองคุณภาพสินค้าที่ส่งออก
6. เอกสารการประกันภัย
          เอกสารการประกันภัย แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
          1. การประกันชีวิต คือ สัญญาประกันภัยที่ผู้รับประกันตกลงจะ ชดใช้เงินจำนวนหนึ่งให้แก่ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์เทื่อเกิดเหตุตามสัญญา มี 3 ประเภทคือ
          1.1. ประเภทสามัญ
          1.2. ประเภทอุตสาหกรรม
          1.3 ประเภทประกันหมู่
          2.  ประกันวินาศภัย  คือ การที่ผู้รับประกันภัยทำสัญญายินยอมที่จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน หรือชดใช้เงินจำนวนหนึ่งในกรณีที่เกิดความเสียหายเกี่ยวกับทรัพย์สินที่เอาประกันภัย โดยที่ผู้เอาประกันภัยตกลงจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้รับประกันภัย แบ่งประเภทของการประกันวินาศภัยออกเป็น 4 ประเภท ด้วยกัน 
         2.1 การประกันภัยอัคคีภัย   คือสัญญาที่คุ้มครองวินาศภัยที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินที่เอาประกันภัยเป็นกรมธรรม์มาตรฐาน
          2.2 การประกันภัยทางทะเล เป็นการประกันความเสียหายทางสินค้าและทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างการขนส่งรวมทั้งพาหนะและสิ่งอื่นๆทีใช้ในการขนส่ง
          2.3 การประกันภัยรถยนต์ คือ การประกันภัยความเสียหายหรือความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้รถยนต์
          2.4 การประกันภัยเบ็ดเตล็ด เป็นการประกันวินาศภัย ให้ความคุ้มครองต่อความสูญเสียที่เกิดจากภัยอื่นๆ นอกเหนือจากการคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันอัคคีภัย
          เอกสารเกี่ยวกับการประกันภัยที่ใช้อยู่ทั่วไป ได้แก่
          1. ใบคำขอเอาประกันภัย ( Application Form)
          2. กรมธรรม์ประกันภัย ( Insurance Policy)
          3. กรมธรรม์เปิด ( Open Policy)
          4. หนังสือรับรองการประกันภัย ( Certificate of  Insurance)
          5. หนังสือเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน  ( Claim Form)

7. เอกสารการขนส่ง
          เอกสารการขนส่ง เป็นเอกสารเกี่ยวกับการขนส่งมีความสำคัญและประโยชน์ที่จะบอกได้ถึงวิธีการขนส่งทั้งภายในและภายนอกประเทศ ได้แก่
          1.ใบจองเรือ(Booking Note)  คือ เอกสารที่ผู้ส่งออกจองระวางเรือที่จะบรรทุกสินค้าไปยังผู้ซื้อต่างประเทศ ภายหลังจากที่ได้รับใบสั่งซื้อจากลูกค้าแล้ว
          2.ใบสั่งให้ขนสินค้าขึ้นเรือ(Shipping Order)  เป็นเอกสารที่ออกโดยบริษัทหรือตัวแทนเรือหลังจากที่ได้มีการจองระวางเรือเรียบร้อยแล้ว เพื่อสั่งการให้ต้นหนเรือรับสินค้าขึ้นบรรทุกเรือตามรายการ
          3.ใบขนสินค้าขึ้นเรือ(Mate's Receipt) เป็นเอกสารที่ ต้นหนเรือจะออกเอกสารให้ผู้ ส่งออกเพื่อเป็นหลักฐานรับรองว่าได้รับสินค้าขึ้นเรือแล้ว
          4.ใบตราส่งสินค้า(Bill of Lading) เอกสารใบนี้จะออกโดยบริษัทเรือหรือตัวแทนและมอบให้กับผู้ส่งสินค้าเพื่อใช้เป็นหลักฐานว่าบริษัทเรือได้รับดำเนินการขนส่งสินค้าให้แล้วตามความประสงค์ของผู้ส่งสินค้า
          5.สัญญาเช่าเหมาเรือ(Charter Party,C/P) เป็นเอกสารที่บริษัทเรือออกให้เพื่อแสดงเงื่อนไขในกาตกลงเช่าเรือ
          6.ใบสั่งปล่อยสินค้า(Delivery Order D/O) เป็นเอกสารที่บริษัทเรือได้ออกให้กับผู้นำเข้าสินค้า เมื่อผู้นำเข้าได้นำใบ B/L มายื่นแลกเปลี่ยนขอรับใบ D/O ไปเพื่อจะนำเอาใบ D/O ไปยื่นแสดงต่อเจ้าหน้าที่คลังสินค้าให้ปล่อยสินค้าจากคลังท่าเรือมอบให้แก่ผู้นำเข้า
          7.รายการบัญชีสินค้า(Maninfest)  บริษัทเรือหรือตัวแทนจะบันทึกรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าที่นำขึ้นบรรทุกบนเรือเพื่อให้ต้นหนเรือนำไปพร้อมกับสินค้า
          8.ใบพัสดุภัณฑ์ทางอากาศ(Air Way Bill) เป็นใบตราส่งที่มีคุณสมบัติเพียงใบรับขน (Receipt) และสัญญาขน (Contract) เท่านั้น เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงถึงรายละเอียดของสินค้าและรายละเอียดเกี่ยวกับการบิน รวมทั้งใช้แสดงน้ำหนักของสินค้าที่ขน
          9.ใบตราส่งทางรถไฟ(Rail Way Bill) เป็นเอกสารที่ออกโดยการรถไฟ ใช้เป็นหลักฐานว่าได้รับสินค้าจากผู้ส่งออกเพื่อขนส่งไปยังจุดหมายปลายทางในต่างประเทศแล้ว
          10.ใบรับพัสดุภัณฑ์ไปรษณีย์(Parcel Post Notification)  เอกสารนี้ใช้เป็น ใบรับซึ่งออกโดยสำนักงานไปรษณีย์ (Post Office) ของประเทศต้นทางที่ส่งสินค้าให้ไว้เป็นหลักฐานว่าจะจัดส่งหีบห่อสินค้าให้แก่ผู้รับปลายทาง




2 ความคิดเห็น:

  1. อนุญาตให้ฉันแนะนำคุณกับบริการเงินทุน LE-MERIDIAN เราเข้าสู่ธุรกิจสินเชื่อโดยตรงและการจัดหาเงินทุนในแง่ของการลงทุน เราให้บริการทางการเงินแก่ภาคเอกชน / บริษัท ที่มองหาการเข้าถึงกองทุนในตลาดทุนเช่นน้ำมันและก๊าซอสังหาริมทรัพย์พลังงานทดแทนเวชภัณฑ์การดูแลสุขภาพการขนส่งการก่อสร้างโรงแรมและอื่น ๆ เก้าร้อยล้านดอลลาร์) ในทุกภูมิภาคของโลกตราบใดที่ผลตอบแทนการลงทุน 1.9% ของเราสามารถรับประกันได้ในโครงการ
    บริการเงินทุน Le-Meridian
    (60 Piccadilly, Mayfair, London W1J 0BH, สหราชอาณาจักร) อีเมลอีเมลติดต่อ .... lfdsloans@lemeridianfds.com
    WhatsApp ____ + 1 (989) 394-3740

    ตอบลบ