วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557

บทที่ 3 ระบบแลกเปลี่ยน

   ความหมายของการแลกเปลี่ยน
                การแลกเปลี่ยน ( Exchange )คือ เป็นกิจกรรมการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของ ของสิ่งของ สินค้าหรือบริการ โดยการเสนอสิ่งที่มีต่างหรือสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการเป็นการตอบแทน
                จากความหมายของการแลกเปลี่ยนสามารถสรุปลักษณะของการแลกเปลี่ยนได้ดังนี้  
                1. ประกอบด้วยบุคคลหรือกลุ่มบุคคล 2 ฝ่ายขึ้นไป
                2. แต่ละฝ่ายมีสิ่งที่มีมูลค่าสำหรับอีกฝ่าย
                3. แต่ละฝ่ายมีความสามารถในการติดต่อสื่อสารและการส่งมอบ
                4. แต่ละฝ่ายมีอิสระที่จะยอมรับหรือ ปฏิเสธในสิ่งที่อีกฝ่ายเสนอ
                5. แต่ละฝ่ายเชื่อว่าเป็นการเหมาะสมหรือพอใจหรือพอใจที่จะติดต่อสื่อสารกับอีกฝ่ายหนึ่ง
วิวัฒนาการของการแลกเปลี่ยน

                การแลกเปลี่ยนมีมาตั้งแต่อดีต แต่ละยุคละสมัยจะมีความแตกต่างกัน  ซึ่งสามารถสรุปวิวัฒนาการของการแลกเปลี่ยนได้ดังนี้

                1. ระบบการแลกเปลี่ยนของต่อของ ( Barter System)
                2. ระบบการแลกเปลี่ยนโดยใช้เงิน (Money System)
                3. ระบบการแลกเปลี่ยนโดยใช้เครดิต (Credit System)
1. ระบบการแลกเปลี่ยนของต่อของ ( Barter System)
            ระบบแลกเปลี่ยนของต่อของ เป็นการนำสิ่งของมาแลกเปลี่ยนกันระหว่างผู้ที่มีความต้องการตรงกัน เช่น นำข้าวสารมาแลกกับหมู นำไข่มาแลกปลา  ในทางปฏิบัติมีปัญหาและอุปสรรคต่างๆเกิดขึ้นหลายประการ ได้แก่
                1. ปัญหาความต้องการของคนไม่ตรงกัน
                2. ปัญหาเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนหรือกำหนดราคา
                3. ปัญหาเกี่ยวกับการขนส่ง
                4. ปัญหาเกี่ยวกับการเก็บรักษา
                5. ปัญหาเกี่ยวกับการให้กู้ยืมและการชำระหนี้
               6. ปัญหาเกี่ยวกับสิ่งของบางอย่างแบ่งแยกหน่วยย่อยไม่ได้
2. ระบบการแลกเปลี่ยนโดยใช้เงิน (Money System)
            จากการแลกเปลี่ยนในระบบของแลกของมีความไม่สะดวกหลายประการ มนุษย์จึงได้คิดค้นหาวิธีแลกเปลี่ยนในระบบใหม่ โดยมีการกำหนดสิ่งของบางอย่างขึ้นมาเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เรียกสิ่งนั้นว่า เงิน (Money)
                หน้าที่ของเงิน (Functions of Money)
                1.เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน
                2. เป็นเครื่องวัดมูลค่า
                3. เป็นมาตรฐานในการชำระหนี้ในอนาคต
                4. เป็นเครื่องเก็บรักษามูลค่า
                ประเภทของเงิน ( Kind of Money)

               เงินสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ได้ดังนี้

                1. เงินมาตรฐาน คือ เงินที่ทำด้วยโลหะที่มีค่าและหายากใช้เป็นมาตรฐานในการแลกเปลี่ยนโดยแท้
                2. เงินเครดิต หมายถึง เงินประเภทที่มีราคาของเงินที่ตราไว้สูงกว่าสิ่งของที่ใช้ทำเงินนั้น เหตุที่เรียกว่า เงินเครดิต  เพราะผู้ใช้เชื่อเครดิตของรัฐบาลเพราะรัฐบาลเป็นผู้กำหนดให้เงินใช้ชำระหนี้ตามกฎหมายได้
                3. เงินฝากเผื่อเรียก หมายถึง เงินฝากธนาคารพาณิชย์ประเภทเงินฝากกระแสรายวัน เจ้าของเงินฝากสามารถเขียนเช็คสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินได้ทันทีเมื่อต้องการ   
3. ระบบการแลกเปลี่ยนโดยใช้เครดิต (Credit System)
           เครดิต หมายถึง ความเชื่อที่เกิดขึ้นระหว่างบุคคลหนึ่งกับอีกบุคคลหนึ่งในระยะเวลาหนึ่ง หรือเป็นการที่บุคคลหรือ ธุรกิจมอบความเชื่อถือและความไว้วางใจให้แก่บุคคลหรือธุรกิจเพื่อให้รับสินค้าหรือบริการไปโดยยังไม่ต้องชำระเงินในขณะนั้น แต่มีสัญญาว่าจะชำระเงินให้ในอนาคต
                ประเภทของเอกสารเครดิต
                เอกสารเครดิตที่นิยมใช้ได้แก่
                1. ตั๋วสัญญาใช้เงิน
                2. ตั๋วแลกเงิน
                3. เช็ค
                ประโยชน์การใช้เอกสารเครดิต
                1.มีความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ เพราะการใช้เอกสารเครดิตทำให้การดำเนินธุรกิจมีความคล่องตัว
                2. มีความปลอดภัย  การพกพาเงินสดจำนวนมากในการประกอบธุรกิจอาจทำให้ไม่ปลอดภัยทั้งต่อตนเองและทรัพย์สิน



2 ความคิดเห็น: